สร้างบ้านคลายร้อนและกันฝนอย่างไร ให้ทันสมัยสไตล์โมเดิร์นสุดฮิต


ด้วยสภาพอากาศเมืองไทยที่ตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น จึงเป็นอีกตัวแปรหนึ่งที่ทำให้ต้องเจอแดดจัดและฝนตกหนักในบางฤดู เป็นผลทำให้บ้านในเมืองไทยต้องสามารถคุ้มแดดและกันฝนได้ บริษัทรับออกแบบบ้านจึงต้องคำนึงถึงการออกแบบที่ต้องเอื้อให้บ้านอยู่สบาย และเลือกใช้วัสดุที่ทนทาน แข็งแรง และรองรับสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยดีไซน์ทันสมัยของบ้านโมเดิร์น นอกจากทำให้ตัวบ้านดูทันสมัยขึ้นแล้ว ยังต้องตอบโจทย์สำคัญในการป้องกันให้บ้านน่าอยู่ด้วย

สำหรับการออกแบบบ้านโมเดิร์นที่มีตัวบ้านรูปทรงเลขาคณิต การเลือกใช้หลังคาแบบเพิงหมาแหงนที่มีลักษณะเพิงลาดเอียงไปทางใดทางหนึ่ง จะช่วยระบายน้ำฝนไม่ให้ถูกกักเก็บอยู่บนหลังคาลดความเสี่ยงในการรั่วซึมเข้าสู่ตัวบ้านได้ในอนาคต พร้อมเสริมฉนวนกันความร้อนใต้หลังคาจะช่วยให้ความร้อนไม่ให้ถูกสะสมและถ่ายโอนเข้าสู่ตัวบ้าน ในขณะเดียวกันก็ต้องมีชายคายื่นยาว ในทิศทางที่ฝนสาดและมีแดดส่องแรงอย่างทิศตะวันตก หรือมีส่วนยื่นเพื่อป้องกันน้ำฝนกระทบประตูหน้าต่างโดยตรง วัสดุสมัยใหม่ที่นิยมใช้มุงหลังคาคือแผ่นเมทัลชีท ซึ่งมีราคาถูก คงทน เหมาะสำหรับหลังคาเพิงหมาแหงน ไม่เสี่ยงต่อการรั่วซึม

นอกจากนี้การเปิดพื้นที่ว่าง อย่างบริเวณที่จอดรถหรือด้านข้างตัวบ้านให้ดูโล่งโปร่งดูกว้างขึ้นได้ทันที หากเป็นพื้นซีเมนต์ควรมีความลาดเอียงหรือมีสโลปให้น้ำฝนไหลลงท่อระบายน้ำโดยเร็ว แต่หากจัดเป็นสวนรอบๆ ก็สามารถช่วยระบายน้ำฝนลงดินได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีวัสดุปูพื้นรอบๆ บ้านสามารถดูดซับน้ำฝนได้เร็วขึ้นก็ช่วยให้รอบๆ บ้านไม่ชื้นแฉะได้อีกทาง



เปิดมุมมองความร่มรื่นขึ้นอีกระดับด้วยการเลือกใช้โทนสีสว่าง อย่างสีขาวที่ช่วยสะท้อนแสงได้ดี ลดความร้อนที่จะเข้าถึงตัวบ้านได้โดยตรง ตัดด้วยสีเทามาตกแต่งตัวบ้านดูมีมิติขึ้น ติดตั้งประตูและหน้าต่างที่ทำจากกระจกใสบานเลื่อนและบานกระทุ้งมาตกแต่ง รวมถึงการเปิดช่องให้ลมพัดผ่านอย่างทั่วถึงยังเผยพื้นที่โปร่ง โล่ง ให้ดูไม่ทึบหรือชวนอึดอัดได้อีกด้วย นอกจากจะได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติสะท้อนเข้าสู่ภายในบ้านอย่างเหมาะสมแทนที่การเปิดสวิตช์ไฟในตอนกลางวันแล้ว ทั้งยังลดความแข็งกระด้างของบ้านสี่เหลี่ยมให้ดูนุ่มนวลและชวนผ่อนคลายยิ่งขึ้น